วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2558

::ห้วงคิดที่ 6::









::บทที่ 6::

ไม่ว่าจะรู้หรือไม่แต่'เด็ก'เป็นความหวังของ'ผู้ใหญ่'เสมอ










ข้าไม่มีโอกาสได้สนทนากับซานิวะอีกเลย...



นับจากเรื่องวันนั้นไม่ว่าจะเป็นเวลาใดคนผู้นั้นเป็นต้องมีดาบอื่นติดตามอยู่ข้างกายอย่างน้อยหนึ่งเล่มเสมอ ข้าพยายามคิดในแง่ดีว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นไม่ได้มีสาเหตุอันใดมาจากการกระทำของข้าแต่ก็ไร้ผล ข้าขุ่นเคืองนักเมื่อการกระทำนั้นเหมือนจะเป็นการตอกย้ำว่าเขาไม่สามารถวางใจที่จะอยู่กับข้าตามลำพังได้ หากถูกต่อว่าด่าทอข้ายังจะรู้สึกดีเสียกว่าการหลบเลี่ยงราวเห็นเป็นปีศาจร้ายเช่นนี้





"ท่านดูอารมณ์ไม่ดีนะ ท่านมิคาสึกิ" โชคุไดคิริเอ่ยปากขึ้นในระหว่างออกลาดตะเวนประจำวัน สีหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉยทำให้ข้าไม่อาจคาดเดาว่าอีกฝ่ายกำลังคิดสิ่งใดอยู่





"ข้าดูออกง่ายเช่นนั้นเชียวหรือ? อากาศวันนี้ร้อนจนข้าอยากกลับไปอาบน้ำที่เรือนเร็วๆเชียวละ แต่ก็ต้องทำงานก่อนนี่นะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" ข้าหัวเราะกลบเกลื่อนก่อนจะปัดเรื่องขุ่นใจในหัวทิ้งไว้ข้างทาง





"ถ้าเช่นนั้นก็รีบเร่งม้าเถอะ หิวจะแย่อยู่แล้ว" มุสึโนะคามิโอดครวญด้วยความหิวโหยพร้อมเสียงร้องในท้องที่ดังออกมาเป็นพยานยืนยัน





เนื่องจากวันนี้เป็นการลาดตะเวนในอาณาเขตที่ค่อนข้างกว้างจึงยังไม่มีดาบเล่มไหนได้ทานอาหารเต็มอิ่มนอกจากมื้อเช้าก่อนปฏิบัติหน้าที่ สมาชิกเล่มอื่นต่างพยักหน้าเห็นด้วยเพราะแม้จะได้พักใต้ร่มไม้เพื่อหาอะไรใส่ท้องประทังความหิวบ้างเป็นระยะ แต่อากาศที่ร้อนอบอ้าวเช่นนี้ก็ทำให้เหนื่อยล้าได้ง่าย ในฐานะนายกองข้าก็ไม่คิดจะนิ่งดูดายให้ผู้ติดตามต้องตรากตรำกันถึงเพียงนั้น จึงชักบังเหียนเอ่ยชักชวนให้ไปต่อจะได้กลับเรือนกันโดยเร็ว



...........



....



..






"เสร็จสักที ถ้านานกว่านี้ข้าคงจะละลายหายไปกับท้องทุ่งนั่นแล้ว"





"ฮ่าฮ่าฮ่า ขนาดนั้นเลยหรอมุสึโนะคามิ แต่มันก็ร้อนจริงๆนั่นละนะ"





ข้าเอ่ยพลางเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาตามหน้าผาก ที่ราบแถวนี้อยู่ห่างจากฐานบัญชาการด้วยภูเขาลูกใหญ่จึงยากที่กระแสลมอันชุ่มชื่นจะพัดเข้าถึง ยังดีที่มีป่าไม้ค่อยให้ร่มเงามากมายตามริมทาง สมาชิกหน่วยลาดตะเวนต่างใช้เวลาพักเหนื่อยข้างชายป่าอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะพากันขึ้นม้าเมื่อข้าเห็นว่าทุกคนพร้อมที่จะเดินทางกลับ แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากออกเดินทาง บางสิ่งที่คล้ายเคยได้ยินเมื่อนานมาก็ดังขึ้น...





..ตึ่ง..ตึ่ง..ตึ่ง..





          เสียงนี้มัน..




สัญญาณรบ!!





ดวงตาจันทร์เสี้ยวเบิกกว้างเมื่อนึกออก สมาชิกหน่วยลาดตะเวนทั้งหมดต่างก็รับรู้อยู่แก่ใจเมื่อดาบทุกเล่มต่างจับร่างจริงของตนไว้ให้มั่น ทหารเสกทุกนายต่างจัดรูปแบบทัพอย่างรู้หน้าที่ทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง บรรยากาศเข้ารู้สภาวะตึงเครียดเมื่อพวกข้าไม่รู้ว่าศัตรูมีจำนวนเท่าไรและมาจากทิศทางใด ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนข้าไม่มีเวลาแม้แต่จะส่งหน่วยสอดแนมไปหาตำแหน่งทัพเมื่อเสียงกลองศึกที่ลั่นดังนั้นดังก้องไปทั่วไหล่เขาและพื้นราบ ถ้าข้าศึกอยู่บนเขาพวกข้าก็ตกที่นั่งลำบาก





"ถอยก่อน! ออกไปให้พ้นชายป่า!" ข้าสั่งการด้วยเกรงว่าศัตรูจะใช้พลธนู ตำแหน่งของพวกข้าตอนนี้กำลังเสียเปรียบอย่างที่สุด หากเป็นในพื้นที่ระดับเดียวกันพวกข้ายังพอจะหาวิธีรับมือได้บ้าง แต่เหมือนเทพเจ้าจะไม่เข้าข้างเมื่อสิ่งที่ข้าหวั่นเกรงนั้นได้เริ่มต้นขึ้น..





ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!!





"พลโล่ออกมาด้านหน้า พวกเราถอย!!"





ทุกคนทำตามคำสั่งข้าอย่างรู้หน้าที่ตนเอง ทหารส่วนนึงช่วยกันยกโล่ขึ้นป้องกันเกาทัณฑ์ให้พวกข้าได้ถอยทัพอย่างปลอดภัย ข้าสั่งให้พวกเขาถอยหลังตามมาไม่ห่าง ข้าไม่ต้องการทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลังเพื่อเอาตัวรอดแม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารที่เกิดจากการอัญเชิญของซานิวะก็ตาม พวกข้าควบม้าถอยห่างออกมาเพื่อที่จะไปให้ถึงทุ่งโล่งกว้าง อย่างน้อยก็จะได้เห็นจำนวนข้าศึกกันอย่างชัดๆ ตราบใดที่ลูกแก้วทหารทองของพวกข้ายังไม่แตกทหารทั้งหมดก็จะเป็นกำลังช่วยเหลือพวกข้าเสมอ แต่ข้าไม่รู้เลย





ว่ามันคือจุดเริ่มต้นของหายนะ..






ตู๊ม!! / เพล้ง!!





ก้อนหินขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาด้วยกำลังแรงกระแทกพลโล่ของพวกข้าจนทุกนายดับดิ้น ลูกแก้วสีทองของข้ากับโชคุไดคิริต่างแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่มีเวลาให้ใครจมอยู่กับความตกตะลีง พลทหารของฝ่ายตรงข้ามต่างพุ่งตรงเข้ามาใกล้พวกข้าจากไหล่เขาหลังหมดระยะที่เครื่องยิงหินกับธนูจะยิงไปถึง ฝ่ายพวกข้าก็ไม่น้อยหน้า เมื่อเห็นบริวารของข้าศึกวิ่งเข้ามาเหล่าทหารทุกนายก็วิ่งออกมาเผชิญหน้าตรงเข้าโรมรันศัตรูอย่างกล้าหาญ จิตวิญญาณดาบทุกเล่มในหน่วยต่างช่วยกันสังหารศัตรูได้อย่างไม่ยากเย็นแต่จำนวนสัดส่วนของพลทหารทำให้ข้าไม่อาจวางใจ





"โกโคไท กลับฐานไปขอกำลังเสริม" ยังไม่ทันที่ข้าจะเอ่ยปากโชคุไดคิริซึ่งเป็นรองหัวหน้าหน่วยก็สั่งการให้จิตวิญญาณมีดสั้นเพียงเล่มเดียวในกลุ่มรีบกลับไปขอกำลังเสริม





"ตะ แต่ว่า.." เด็กชายมีสีหน้าลังเลเมื่อได้รับคำสั่ง





"รีบไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่พวกเราจะดับสลายกันหมด อย่างน้อยก็ต้องมีใครรอดกลับไปสักคนเพื่อแจ้งข่าวการศึก จงรีบไปเดี๋ยวนี้ เร็วเข้า! เฮชิคิริจะไปกับเจ้าด้วย"





"วางใจได้เลย.." เฮชิคิริให้คำมั่น โกโคไททำหน้าตื่นตระหนกจนข้านึกสงสาร เจ้าตัวคงกลัวจนลนลานทำอะไรไม่ถูกเสียแล้ว





วันนี้เดิมทีพวกข้าตั้งใจแค่จะมาออกตรวจพื้นที่จึงไม่มีดาบใหญ่อยู่ในหน่วยสักเล่ม อย่างมากก็มีแค่ดาบยาวซึ่งก็คือข้ากับโชคุไดคิริ ที่เหลือก็เป็นดาบมาตฐาน มุสึโนะคามิ เฮชิคิริ ดาบสั้นมีเพียงโฮริคาวะ โกโคไทเป็นมีดสั้นเพียงเล่มเดียวที่ได้ร่วมหน่วยตามคำสั่งของซานิวะที่อยากให้เจ้าตัวออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างเท่านั้น การตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเนื่องจากไม่พร้อมรบอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก





โดยปกติหากมีข้าศึกอยู่แถวนี้พวกข้าย่อมต้องได้ทราบข่าวคราวมาบ้างไม่มากก็น้อยก่อนจัดทัพเตรียมรบ แต่นี่กลับไม่มีข่าวคราวความเสียหายอันใดจากพวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนี้เลยสักอย่าง หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายหลบซ่อนตัวได้ดีมากก็ต้องเป็นเพราะสายข่าวของพวกข้าถูกปิดหูปิดตาไว้จนไม่รู้ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ





"ขะ..ข้าไปคนเดียวได้นะ! ข้าเป็นแค่มีดสั้นไม่มีใครสนใจข้าหรอกครับ!"





ประโยคที่ตอบรัวเร็วด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนั้นพวกดาบอื่นต่างได้ยินชัด แต่ก็ไม่มีใครสละเวลามานั่งนึกเห็นใจเนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ข้าได้แต่ทอดถอนใจกับความอ่อนเดียงสาของเด็กน้อยที่พยายามจะแสดงความกล้าหาญโดยไม่รู้ว่าผู้อื่นปราถนาดีเพียงใด





เด็กโง่.. ก็เพราะเป็นมีดสั้นน่ะสิถึงได้ห่วงเจ้านัก โชคุไดคิริต้องการให้เฮชิคิริคอยถ่วงเวลาหากมีการโจมตีอันไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างทางต่างหากเล่า แม้เจ้าจะเป็นเพียงมีดสั้นที่ใช้เข้าประจัญบานกับผู้ใดไม่ได้ แต่หากเจ้ารอดกลับไปได้อย่างน้อยดาบเล่มอื่นๆที่มีประสิทธิภาพกว่าจะได้เตรียมตัวรับมือทัน เจ้าคงไม่รู้หรอกว่าตอนนี้มีดสั้นผู้เปราะบางอย่างเจ้าน่ะ





..เป็นทางรอดและชัยชนะเดียวของพวกข้า..








"ห้ามดื้อแล้วทำตามที่ข้าสั่ง! นี่ไม่ใช่ที่เรือนถึงจะมีคนมาคอยตามใจเจ้า ไปได้แล้ว ไป!!" โกโคไทถูกเฮชิคิริรั้งตัวไปด้วยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ ริมฝีปากเม้มแน่นราวกับพยายามจะบังคับตนเองไม่ให้ร้องไห้ ทั้งคู่แยกจากพวกข้าไปอีกทางพร้อมพลธนูบางส่วน





"ทำตัวโหดร้ายจังนะ เดี๋ยวก็โดนเกลียดหรอก" ข้าเอ่ยหยอกพร้อมกับฟันร่างข้าศึกจนแขนขาดสะบัดเลือดข้นๆสาดกระเซ็นไปทั่วพื้นหญ้า โชคุไดคิริยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนตวัดดาบบั่นคอศัตรูด้วยสีหน้าเรียบเฉย





"ให้ข้าโดนเกลียดยังดีกว่าให้พวกเราดับดิ้นกันหมด"





"ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นสินะ ข้าก็ยังไม่อยากดับสลายในตอนนี้หรอก.."





เพราะยังมีเรื่องที่ต้องรอสะสางกับคนผู้นั้น..





ใบหน้าและเรือนผมสีสวยผุดขึ้นมาในห้วงคิดก่อนที่ข้าจะรีบสลัดมันทิ้งไปชั่วคราว นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องอื่น ตอนนี้แม้พวกข้าจะยังไม่มีใครเพลี่ยงพล่ำแต่ทหารของพวกข้าก็เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆตามสภาพของลูกแก้วที่เริ่มมีรอยร้าว





"ชักร้อนแล้วสิ เอาจริงเลยดีไหม.." ข้าเอ่ยเบาๆกับตนเอง





"ถ้าทำให้พลิกสถานการณ์ได้ก็ตกลงครับ ท่านมิคาสึกิ" โฮริคาวะซึ่งอยู่ด้านซ้ายขยับกายฟันศัตรูวิ่งเข้ามายืนเคียงข้างข้า





"ปู่อะรีบเลย เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะลำบากพวกข้าทีหลัง" มุสึโนะคามิเอ่ยติดตลกทำให้ข้านึกขันแต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร ฝ่ายโชคุไดคิริเองก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับข้าที่จะเร่งปิดฉากการรบนี้เสียที





สถานการณ์นี้ยิ่งยืดเยื้อยิ่งเสียเปรียบ ทหารของศัตรูพวกนี้จะว่าเป็นคนก็ไม่เชิงนักเพราะถูกความปราถนาอันชั่วร้ายสิงสู่จนเกิดไอดำเข้มข้นแผ่อยู่รอบกาย ซ้ำดวงตายังเป็นสีแดงก่ำเลือดดังนั้นพวกมันจึงไม่รู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อย เหล่าขุนพลของฝ่ายตรงข้ามต่างก้าวออกมาด้านหน้าทันทีเหมือนรับรู้ว่านี้คือการต่อสู้ครั้งสำคัญ ในขณะที่เหล่าทหารทั้งสองฝ่ายต่างยังคงต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด





"สัดส่วนคู่ต่อสู้ดูไม่ค่อยเสมอภาคเลยนะ ฮะฮะฮะ"





"มันใช่เวลามาหัวเราะมั้ยเนี่ย.."





ข้าหัวเราะเมื่อเห็นขุนพลอมมนุษย์หกตนก้าวออกมาประจัญหน้าผิดกับฝั่งข้าที่มีจิตวิญญาณดาบเพียงสี่เล่ม มุสึโนะคามิส่ายหัวเอือมระอากับความเรื่อยเฉี่อยของข้าในขณะที่โฮริคาวะได้แต่ยิ้มจืดเจือน  แต่ใครจะสนกันละในเมื่อศึกตรงหน้านี้สำคัญกว่า..





หน้าที่ในฐานะจิตวิญญาณดาบอันเปี่ยมไปด้วยพลังบริสุทธิ์ คือการทำลายสิ่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ หากฝ่ายตรงข้ามกระทำการสำเร็จ ประวัติศาสตร์ที่ข้าเคยรับรู้หรือเคยเป็นส่วนหนึ่งของมันก็จะกลายเป็นเพียงฝุ่นควัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นบางทีในสมัยของข้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นไม่มีช่างตีดาบที่ชื่อ มุเนะจิกะ ซันโจ หากไม่มีซันโจก็จะไม่มีข้ากับสหายเล่มอื่นๆถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ดังนั้น..





ฟู่ว์..





"เอาละนะ.."







มาเริ่มกันเลย!!



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น